อุทยานแห่งชาติเขาสก มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอพนม และอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีสภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นภูเขาดิน และภูเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อน โดยเฉพาะช่องแคบเขากาเลาะ มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนที่มียอดแหลมระเกะระกะ มีแนวหน้าผาสูงชันบางแห่งเป็นแท่งสูงขึ้นไปในอากาศคล้ายหอคอยสูง ที่ราบมีไม่มาก มีสภาพป่าเป็นป่าดงดิบที่สมบูรณ์มากเป็นป่าต้นน้ำ ลำธารของแม่น้ำตาปี..
จุดสูงสุดมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 960 เมตร โดยเฉลี่ยสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 200 เมตร และลักษณะดินโดยทั่วไปเป็นดินเหนียวปนทรายมีสีแดง บางแห่งเป็นดินลูกรังแต่มีส่วนน้อย ด้านทิศเหนือบริเวณคลองพระแสงเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เกิดขึ้นเนื่องจากการก่อสร้าง เขื่อนรัชชประภา หรือเมื่อก่อนเรียกกันว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน นั่นเอง
สิ่งที่ควรเตรียมไปด้วย
- เสื้อผ้า
- ของใช้ส่วนตัว
- ชุดสำหรับเล่นน้ำ อันนี้อย่าลืมเด็ดขาด เพราะออกจากประตูห้องพักก็สามารถกระโดดลงน้ำได้ทันที สุดยอดจริงๆ
- หนังสือเอาไว้นอนตีพุงอ่านเล่นหน้าบ้าน
- เครื่องเล่น MP3 ไว้เปิดเพลงฟังชิลล์ๆ
- ครีดกันแดด โลชั่น ก็พาไปด้วยล่ะ เป็นแบบกันน้ำด้วยจะดี กลับมาจะได้ไม่เกรียม
- ไฟฉาย เพราะที่นี่เขาใช้เครื่องปั่นไฟกัน เปิดไฟเป็นเวลา หรือใช้เวลาเราไปเดินถ้ำ
- รองเท้าแตะ หรือรองเท้าที่ใส่ลงน้ำได้
การเดินทาง
มาจากกรุงเทพฯ
ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) วิ่งไปจนถึงจังหวัดชุมพร จากนั้นตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 41 จนถึง อ.พุนพิน ตรงสี่แยกที่สามารถเข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ ไม่ต้องเลี้ยวไปไหน ให้ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงแยก ท่าโรงช้าง ก็เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 401 จากนั้นประมาณ 40 กม. ก่อนจะถึงตัว อ.บ้านตาขุน จะมีป้ายใหญ่ ของเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ทางขวามือ
มาจากทางจากภูเก็ต
ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 402 ผ่านสะพานสารสิน เข้าเขตบ้านท่านุ่น เข้าสามแยกบ้านต้นแซะไปทางขวาเข้าถนนบายพาสตรงไปพังงา หรือไม่ต้องผ่านสามแยกต้นแซะ แต่ให้เข้าเลนซ้ายตลอด ผ่านตลาดโคกลอยตรงไปพังงา ถึงทับปุด เข้าทางหลวงหมายเลข 415 ถึง อ.ทับปุด เจอสามแยก เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมาย 4 ตรงไปประมาณ 10 กม. จะพบสามแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหลายเลข 415 ประมาณ 50 กม. (เขาต่อ) เมื่อถึงสามแยกที่บ้านพังกวนเหลือ ให้เลี้ยวขวา เข้าทางหลวงหมายเลข 401 เมื่อผ่าน อ.บ้านตาขุน แล้วจะมีป้ายใหญ่ ของเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ทางซ้ายมือ
ไปเขาสก ต้องทำอะไรบ้าง?
กิจกรรมที่อุทยานแห่งชาติเขาสก และเขื่อนรัชชประภา นั้นมีมากมายใช้ได้เลย ก็ลองเลือกดูตามความถนัด และความชอบของแต่ละคน
- ล่องเรือชม เขาสามเกลอ หรือที่เรียกกันว่ากุ้ยหลินเมืองไทย
- ตกปลา
- ชมถ้ำ ที่นี่จะมีหลากหลายถ้ำให้ได้แวะไป เช่น ถ้ำน้ำทะลุ ซึ่งเป็นถ้ำน้ำลอดที่ทำให้คุณได้ผจญภัยกัน อย่าลืมเตรียมไฟฉาย รองเท้ารัดส้น ระยะทางเดินไปกลับประมาณ 6 กิโลเมตร รับรองแวะไปไม่ผิดหวัง
- พายเรือแคนูชิลล์ๆ รับลม ชมขุนเขา และสายน้ำ
- เดินป่าเข้าไปชมบัวผุด พันธุ์ไม้ที่หายากมากแล้ว เรียกได้ว่าเป็นต้องได้เห็นกับตาสักครั้งในชีวิตเลย
พักที่ไหนดี?
ที่พักภายในอุทยานแห่งชาติเขาสกทั้งหมดจะอยู่บนผืนน้ำ ซึ่งก็จะเป็นแพนั่นเอง แต่รับรองด้วยเกียรติของลูกเสือสำรองรุ่นใหญ่ว่าปลอดภัยแน่นอน อากาศต้องกลางคืนอาจจะร้อนไปสักนิด แต่ช่วงเช้ามืดจะเย็นสบาย สดชื่นเลย ที่แนะนำก็มี
- แพภูตะวัน ที่พักสะอาด อาหารอร่อย
ติดต่อสอบถามที่พักแพภูตะวัน และทัวร์แพภูตะวัน โทร 089-497-7612
- แพนางไพร เป็นแพของอุทยานฯ เอง พักที่นี่จะได้วิวดีที่สุด เห็นจุดสำคัญของกุ้ยหลินเมืองไทยเลย แต่อาจเจอคลื่นจากเรือที่วิ่งผ่านบ้างเล็กน้อย ไม่มากไม่มายอะไร
ติดต่อสอบถาม และจองที่พัก โทร 077-095025, 077-299318, 077-395139
- แพ 500 ไร่ ทะเลใน เป็นที่พักในตำนานของที่นี่เลย มีคนกล่าวขวัญถึงกันเยอะมาก เงียบสงบ แต่เดินทางไปถึงไกลหน่อย เพราะว่าอยู่ไกลสุด ดังนั้นจึงเงียบสงบดี
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.500rai.com
ช่วงเวลาแนะนำ
ทางภาคใต้ฝนจะเริ่มตกตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน จนถึงปลายเดือนธันวาคมของทุกปี และจะตกชุกมากขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม – พฤศจิกายน ดังนั้นแล้วช่วงที่เหมาะในการไปเที่ยวเขาสกจะอยู่ในระหว่างเดือน ธันวาคม – เมษายน ของทุกปี แต่ถ้าใครชอบอารมณ์ป่าไม้ที่มีความชุ่มฉ่ำลองไปช่วงหน้าฝนก็ได้ เพราะที่เขาสกนั้นสามารถเข้าไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปีครับ