โดย Almond Liu
ผมเคยเห็นวัยรุ่นหรือคนรุ่นใหม่ มักจะถามคนรุ่นอาม่าว่า “อาม่าจะไหว้พระจันทร์ทำไมให้ยุ่งยาก ฝรั่งอั่งม้อที่อาม่าเคยไม่ชอบขี้หน้ามันอ่ะ มันขึ้นไปเหยียบพระจันทร์มาตั้งหลายสิบปีแล้ว อาม่าจะไปไหว้รอยตีนฝรั่งพวกนั้นทำไมล่ะ”
ถ้าอาม่า มีคำอธิบายก็ดีไป แต่ถ้าอาม่าไม่มีคำอธิบาย หลานก็จะมองว่าเป็นเรื่องงมงาย แต่วันนี้ผมขอเป็นตัวแทนรุ่นอาม่า อธิบายให้หลานๆ รุ่นใหม่ได้รู้แล้วกันนะครับว่า “ทำไมคนจีนต้องไหว้พระจันทร์”
เรื่องมันมีอยู่ว่า
เมื่อหลายร้อยปีก่อนคนจีนที่อยู่ในประเทศจีน ส่วนใหญ่เป็นเชื้อสายที่เรียกกันว่า “ชาวฮั่น” (รวมถึงคนจีนที่สืบเชื้อสายเข้ามาอยู่ในเมืองไทยทุกคนด้วย) ได้โดนชาวมองโกล ซึ่งเป็นคนต่างชาติเข้ายึดครองประเทศโดย เจงกิสข่าน (Genghis Khan) ในช่วงที่ประเทศจีนอ่อนแอ เจงกิสข่าน ปกครองประเทศจีนเรื่อยมา ชาวมองโกลก็เอาเปรียบชาวฮั่นต่างๆ นานา ในทุกๆ เรื่อง พวกมองโกล ไม่ไว้ใจคนจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศ ก็ออกกฎหมายต่างๆ เพื่อจำกัดเรื่องการใช้ชีวิต จำกัดเรื่องการสื่อสาร จำกัดเรื่องอาวุธ แม้แต่มีทำครัวก็ให้มีเพียงแค่ 1 เล่ม ต่อ 1 ครอบครัวเท่านั้น
จนกระทั่งมาถึงช่วงปลายราชวงศ์หยวน (ราชวงศ์ของเจงกิสข่าน) ชาวฮั่นทั้งหลายก็วางแผนที่จะกอบกู้ประเทศชาติ และขับไล่ชาวต่างชาติที่เข้ามาปกครองออกไปจากประเทศ จึงได้วางอุบายขึ้นมาว่า ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของจีน จะทำการไหว้พระจันทร์ โดยแต่ละบ้านได้ทำขนมไหว้พระจันทร์ขึ้นมา โดยลักษณะของขนมจะมีเปลือกบาง ไส้หนา ทั้งนี้เพื่อที่จะยัดจดหมายและข้อความต่างๆ ถึงกัน เพื่อนัดหมายกระทำการปฏิวัติยึดประเทศขับไล่มองโกล โดยแต่ละบ้านก็ทำขนมขึ้นมา และก็มีการส่งมอบแลกเปลี่ยนกัน เป็นการตบตาทหารมองโกลได้เป็นอย่างดี
พอถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ทุกบ้านก็ได้ทำการไหว้พระจันทร์ตามที่ได้มีการนัดหมาย และเมื่อได้เวลาเที่ยงคืน ซึ่งเป็นเวลาที่พระจันทร์ตรงศรีษะพอดี ทุกบ้านก็ใช้มีดทำครัวที่มีอยู่บ้านละ 1 เล่ม ไล่ฆ่าทหารมองโกล และขับไล่ออกจากประเทศจีนได้สำเร็จ
ดังนั้นเพื่อเป็นการระลึกถึงบรรพบุรุษชาวฮั่นผู้มีบุญคุณต่อแผ่นดิน และเพื่อเป็นการระลึกถึงการกู้ชาติได้ คนจีนที่อพยบมาจากแผ่นดิน จึงยังรักษาธรรมเนียมการไหว้พระจันทร์มาจนถึงทุกวันนี้
และอีกนัยหนึ่งเชื่อว่าการไหว้พระจันทร์จะทำให้ร่ำรวย สุขภาพแข็งแรง และมีความสุข ทั้งนี้ก็สืบเนื่องมาจากการกู้ชาติสำเร็จนั่นเอง เพราะเมื่อกู้ชาติได้แล้วคนจีนฮั่นทุกคนก็มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีสุขภาพดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น แต่หลังจากประเทศจีนมีการปฎิวัติวัฒนธรรมจึงทำให้ประเพณีนี้ค่อยๆ เลือนหายไป จะมีก็แต่ชาวจีนโพ้นทะเลที่อพยบไปอยู่ตามประเทศต่างๆ ที่ยังสืบสานประเพณีนี้อยู่ และมีการแลกเปลี่ยนและมอบขนมไหว้พระจันทร์ให้แก่กัน ทั้งนี้ก็หมายถึงการส่งมอบความสุข ความร่ำรวย และสุขภาพที่ดีให้แก่กันนั่นเอง
สำหรับของไหว้พระจันทร์ส่วนใหญ่ที่ใช้
จะเป็นของเจ เพราะบางบ้านก็ถือโอกาสไหว้เจ้าแม่กวนอิมไปด้วยเลยในตัว แต่ทั้งนี้ที่จริงแล้วก็ดูจะไม่ค่อยเกี่ยวข้องกันเท่าไหร่นัก ตามผมเคยเห็นโต๊ะไหว้พระจันทร์ส่วนใหญ่ก็จะประกอบไปด้วย
- ผลไม้ 5 อย่าง เช่น แอปเปิ้ล, กล้วยหอม, สาลี่, ส้มเขียวหวาน, ลำใย ซึ่งผลไม้พวกนี้ก็จะมีความหมายว่า อยู่เย็นเป็นสุข, รับโชครับทรัพย์, เงินทองไหลมา, มหามงคล, สุขภาพแข็งแรง ตามลำดับ
- ขนมไหว้พระจันทร์ต่างๆ ขนมโก๋ ขนมถั่วตัด อันนี้จะมีความหมายว่า ร่ำรวยและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
- เครื่องหอมเครื่องสำอางค์ เนื่องจากมีความเชื่อว่าเทพพระจันทร์เป็นผู้หญิง ดังนั้นการไหว้เครื่องหอมเครื่องสำอางค์ก็จะส่งผลให้ผู้ไหว้มีความสวยงามไปด้วย
- น้ำชา 5 ถ้วย เครื่องกระดาษไหว้ ดอกไม้ ธูป เทียน ซึ่งเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นเครื่องสักการะเทพเจ้าของคนจีน
ทีนี้เราก็คงเข้าใจกันแล้วนะครับว่า “ทำไมคนจีนต้องไหว้พระจันทร์” นั่นเป็นเพราะเรื่องความกตัญญู รู้คุณแผ่นดิน และคุณธรรม ที่คนจีนรุ่นก่อนมี ยึดถือ และถูกสั่งสอนให้ปฎิบัติ จึงทำให้เกิดธรรมเนียมดีๆขึ้น แต่ถ้าคนรุ่นใหม่ไม่รู้ความหมายและไม่รู้จักส่งต่อเรื่องคุณธรรม ความกตัญญูรู้คุณแผ่นดินให้กับคนรุ่นต่อไปได้เข้าใจ ก็เป็นเรื่องเศร้าใจครับ….สุขสันต์วันไหว้พระจันทร์ครับ
🙂